วันนี้ (3 ก.ค. 2564) รัฐบาลซาอุดีฯ ได้ประกาศห้ามคนชาติซาอุดีฯ เดินทางไปเอธิโอเปีย ยูเออี และเวียดนาม หากไม่ได้รับอนุญาตก่อนล่วงหน้า และประกาศระงับการอนุญาตให้ผู้เดินทางจากเอธิโอเปีย ยูเออี เวียดนาม และอัฟกานิสถาน เข้าซาอุดีฯ (รวมผู้ที่เดินทางผ่านประเทศเหล่านี้ในช่วงเวลา 14 วันก่อนเข้าซาอุดีฯ) รวมถึงระงับเที่ยวบินระหว่างซาอุดีฯ กับประเทศดังกล่าวตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 4 ก.ค. 2564
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ก.พ. 2564 รัฐบาลซาอุดีฯ ได้ประกาศระงับการอนุญาตให้ผู้โดยสารจาก 20 ประเทศ (อาร์เจนตินา ยูเออี เยอรมนี สหรัฐฯ อินโดนีเซีย ไอร์แลนด์ อิตาลี ปากีสถาน บราซิล โปรตุเกส สหราชอาณาจักร ตุรกี แอฟริกาใต้ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เลบานอน อียิปต์ อินเดีย และญี่ปุ่น) เข้าประเทศซาอุดีฯ (รวมถึงผู้ที่เดินทางผ่านประเทศเหล่านี้ในช่วงเวลา 14 วันก่อนเข้าซาอุดีฯ)
ต่อมา วันที่ 29 พ.ค. 2564 รัฐบาลซาอุดีฯ ประกาศว่าผู้โดยสารจาก 11 ประเทศ ในกลุ่ม 20 ประเทศดังกล่าว สามารถเดินทางเข้าซาอุดีฯ ได้ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค. 2564 โดยเมื่อเดินทางถึงซาอุดีฯ ผู้โดยสารจากประเทศดังกล่าวจะต้องเข้ากักตัว ณ สถานที่กักตัว (institutional quarantine ซึ่งผู้โดยสารต้องจองและชำระเงินล่วงหน้าผ่านสายการบิน) เป็นเวลา 7 วัน (11 ประเทศดังกล่าว คือ ยูเออี เยอรมนี สหรัฐฯ ไอร์แลนด์ อิตาลี โปรตุเกส สหราชอาณาจักร สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น)
ดังนั้น รายชื่อประเทศที่รัฐบาลซาอุดีฯ ระงับการอนุญาตให้ผู้เดินทางเข้าซาอุดีฯ ในปัจจุบัน หลังจากการประกาศในวันที่ 3 ก.ค. 2564 คือ อาร์เจนตินา อินโดนีเซีย ปากีสถาน บราซิล ตุรกี แอฟริกาใต้ เลบานอน อียิปต์ อินเดีย เอธิโอเปีย ยูเออี เวียดนาม และอัฟกานิสถาน
ผู้โดยสารชาวไทยที่ซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินสำหรับการเดินทางระหว่างซาอุดีฯ กับประเทศไทย โดยเดินทางผ่านสนามบินในยูเออี คือกรุงอาบูดาบี (สายการบิน Etihad) และเมืองดูไบ (สายการบิน Emirates) กรุณาตรวจสอบยืนยันกับสายการบินเรื่องเที่ยวบินในโอกาสแรก