เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ระหว่างเวลา ๑๑.๐๐ น. – ๑๒.๑๕ น. สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายพระราชกุศลครบรอบ ๑ ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ๑๓ ตุลาคม ๒๕๖๐ ณ ทำเนียบเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด ซาอุดีอาระเบีย  โดยมีนายอนันต์ พิกุลทิพย์สาคร อุปทูตรักษาการ ณ กรุงริยาด เป็นประธาน และมีข้าราชการสถานเอกอัครราชทูตฯ และทีมประเทศไทย ณ กรุงริยาด เจ้าหน้าที่และครอบครัว รวมทั้งคนไทยในกรุงริยาดและครอบครัวเข้าร่วมกว่า ๖๐ คน

                        ทั้งนี้ ประธานได้อ่านสดุดี “คาถาถวายพระราชกุศล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร” ซึ่งแต่งและแปลโดยสมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเพื่อเป็นมงคลสูงสุด จากนั้น ผู้เข้าร่วมพิธีฯ ได้สวดมนต์ทำวัตรเช้า และนั่งสมาธิน้อมจิตอันบริสุทธิ์ เป็นเวลา ๙ นาที นำโดยนาวาตรีวิทวัส กู้ประเสริฐ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร

                        นอกจากนี้ ยังได้มีการจัดกิจกรรมอื่น ๆ ภายในพิธีบำเพ็ญกุศลฯ ด้วย อาทิ (๑) การจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (๒) การฉายคลิปวิดีทัศน์กิจกรรมที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ร่วมกับคนไทยในกรุงริยาดและคนไทยในกรุงเบรุต ประเทศเลบานอน จัดขึ้นในรอบ ๑ ปีที่ผ่านมา เพื่อน้อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (๓) การร่วมร้องเพลง “พระราชาในนิทาน” (ศิลปิน: เสถียรธรรมสถาน) และ (๔) การมอบหนังสือ “พระมหากษัตริย์ยอดกตัญญู”  จัดพิมพ์โดยมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ แก่ผู้เข้าร่วมพิธีฯ ทุกคนด้วย  

                        ภายหลังเสร็จพิธีฯ สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันที่งดเว้นวัตถุดิบจากเนื้อสัตว์เพื่อเป็นการร่วมบำเพ็ญกุศลฯ ในครั้งนี้ด้วย โดยมีชุมชนคนไทยในกรุงริยาดได้นำอาหารคาว/หวาน ที่ไม่มีเนื้อสัตว์มาร่วมด้วย 

                        ผู้เข้าร่วมพิธีฯ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าตลอดระยะเวลาแห่งการครองสิริราชสมบัติ ๗๐ ปี  โดยผู้เข้าร่วมพิธีฯ ทุกคนต่างตั้งใจบำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลฯ ซึ่งแม้คนไทยส่วนหนึ่งที่เป็นมุสลิมจะไม่ได้เข้าร่วมในพิธีฯ ด้วยก็ตาม เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านศาสนา แต่ก็ได้ร่วมเป็นจิตอาสาในการช่วยปฏิบัติหน้าที่และอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่ผู้เข้าร่วมพิธีฯ ในครั้งนี้ด้วย เช่น งานบริการประชาชน  งานรักษาความปลอดภัย  และงานประชาสัมพันธ์ เป็นต้น  ซึ่งก็เท่ากับได้ร่วมบำเพ็ญกุศลฯ ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน