วันที่นำเข้าข้อมูล 19 พ.ค. 2560
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562
กงสุลสัญจรครั้งที่ ๕/๒๕๖๐ และหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ ณ เมืองคามิสมูเชต์ ซาอุดีอาระเบีย
เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๖๐ นายดนัย เมนะโพธิ อุปทูต ณ กรุงริยาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงริยาด และสำนักงานแรงงานไทยในประเทศซาอุดีอาระเบีย
ได้เดินทางไปให้บริการกงสุลสัญจรครั้งที่ ๕/๒๕๖๐ และบริการตรวจสุขภาพฟรีตามโครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ ให้แก่พี่น้องชาวไทยที่อาศัยในเมืองคามิสมูเชต์
ทางภาคใต้ของซาอุดีฯ และเมืองใกล้เคียง (ห่างจากกรุงริยาดประมาณ ๑,๐๐๐ กิโลเมตร)
โดยมีชุมชนไทยและครอบครัวประมาณ ๒๐ คนเข้าร่วมงาน (จากทั้งหมด ๓๓ คน) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทยที่ทำงานมานานกว่า ๓๐ ปีขึ้นไป ทั้งนี้ มีผู้มาขอรับบริการกงสุลต่าง ๆ อาทิ หนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน ตลอดจนขอรับคำปรึกษาด้านคุ้มครองและแรงงานด้วย ซึ่งคนไทยทุกคนต่างยินดีที่คณะเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้เดินทางมาให้บริการกงสุลอีกครั้งนับตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม ๒๕๕๙ ที่ผ่านมา โดยในครั้งนั้น คนไทยประสงค์จะให้มีการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในปี ๒๕๖๐ ดังเช่นที่ได้จัดโครงการนี้ให้แก่คนไทยในภูมิภาคอื่น ๆ แล้ว เช่น ภาคกลางและภาคตะวันออก
ดังนั้น ในปีนี้คนไทยต่างรู้สึกขอบคุณที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ให้บริการตรวจสุขภาพฟรีดังกล่าวโดยแพทย์และพยาบาลท้องถิ่นชาวฟิลิปปินส์รวม ๒ คน ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่จะมีอายุ ๕๕ ปีขึ้นไป และมีปัญหาระดับน้ำตาล/ความดันในเลือดสูง หรือปวดเมื้อยกล้ามเนื้อจากการทำงานหนักติดต่อกันมาหลายปี ซึ่งแพทย์ได้จ่ายยาและแนะนำข้อปฏิบัติในการดูแลรักษาตนเองโดยเฉพาะการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
นอกจากนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ และสำนักงานแรงงานไทยฯ ได้ร่วมกันรณรงค์โครงการ “พาคนไทยกลับบ้าน” ต่อคนไทยในพื้นที่ซึ่งพำนักเกินกำหนดอนุญาต (overstay)ในกรณีต่าง ๆ เช่น หนีนายจ้าง นายจ้าง ละทิ้ง/สูญหาย และหนีฮัจย์/อุมเราะห์ โดยไม่มีบัตรถิ่นที่อยู่ (อิกาม่า) หรืออิกาม่าขาดอายุ และประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะได้รับการยกเว้นค่าปรับจากการนิรโทษกรรมในช่วงระหว่างวันที่ ๒๙ มีนาคม – ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๐ รวม ๙๐ วัน ให้ไปลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ไว้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของทางการซาอุดีฯ ดังเช่นที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และสำนักงานแรงงานไทยฯ ได้ช่วยให้คนไทยในกรณีนี้ได้รับใบอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศ (final exit) แล้วกว่า ๑๕ ราย
สำหรับการจัดกงสุลสัญจรครั้งต่อไป สถานเอกอัครราชทูตฯ มีกำหนดจะเดินทางไปให้บริการแก่พี่น้องคนไทยทางภาคตะวันออกเป็นครั้งที่ ๒ ในรอบปีนี้ ณ เมืองอัลโคบาร์ ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐
รูปภาพประกอบ