เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 นายดนัย เมนะโพธิ อุปทูต ณ กรุงริยาด และคณะ ได้เข้าพบนาย Abdul Rahman S. Al-Otaishan ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมประจำมณฑลภาคตะวันออกของซาอุดีฯ ณ สภาหอการค้าฯ ที่เมืองดัมมาม

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 นายดนัย เมนะโพธิ อุปทูต ณ กรุงริยาด และคณะ ได้เข้าพบนาย Abdul Rahman S. Al-Otaishan ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมประจำมณฑลภาคตะวันออกของซาอุดีฯ ณ สภาหอการค้าฯ ที่เมืองดัมมาม

วันที่นำเข้าข้อมูล 5 มี.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 5 พ.ย. 2562

| 878 view

เอกชนซาอุดีฯ พร้อมขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนกับฝ่ายไทย หากมีการปรับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่ายในอนาคต

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 นายดนัย เมนะโพธิ อุปทูต ณ กรุงริยาด และคณะ ได้เข้าพบนาย Abdul Rahman S. Al-Otaishan ประธานสภาหอการค้าและอุตสาหกรรมประจำมณฑลภาคตะวันออกของซาอุดีฯ ณ สภาหอการค้าฯ ที่เมืองดัมมาม

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและการลงทุนของไทยและซาอุดีฯ โดยหวังว่า รัฐบาลทั้งสองประเทศจะสามารถฟื้นฟูความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันได้ในอนาคต โดยสภาหอการค้าฯ พร้อมและยินดีที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทยในการจัดให้ภาคเอกชนของทั้งสองฝ่ายได้มีโอกาสพบปะเจรจาทางธุรกิจ และเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจพิเศษที่เมือง Jubail ซึ่งมีศักยภาพในหลาย ๆ สาขา โดยเฉพาะด้านพลังงาน ปิโตรเคมี และอุตสหกรรมการผลิต ซึ่งปัจจุบันโรงงานต่างชาติได้ตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก หรือการเดินทางไปเยือนประเทศไทยของภาคเอกชนซาอุดีฯ ในอนาคตเมื่อโอกาสอำนวย

ทั้งนี้ อุปทูตฯ ได้กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังดำเนินการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยเพื่อมุ่งไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปตามแนวทางของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับนานาประเทศบนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วน ซึ่งประธานสภาหอการค้าฯ เห็นด้วย หากเอกชนไทยและซาอุดีฯ จะร่วมลงทุนระหว่างกันต่อไปไม่ว่าจะเป็นโครงการขนาดใหญ่หรือ SME ตราบที่ทั้งสองฝ่ายจะได้รับประโยชน์ร่วมกัน

นอกจากนี้ อุปทูตฯ ยังได้ให้สัมภาษณ์บรรณาธิการนิตยสารของสภาหอการค้าฯ โดยหวังว่า ไทยและซาอุดีฯ จะสามารถปรับความสัมพันธ์กันได้ในอนาคต เพื่อขยายความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ต่อไป โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ซึ่งมูลค้าการค้ารวมของไทยและซาอุดีฯ ในปี 2559 มีประมาณเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยนำเข้ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสินค้านำเข้าหลัก คือน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมัน ในขณะที่ไทยส่งออกเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกหลัก คือ รถยนต์และส่วนประกอบ

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ