สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ในการเดินทางกลับประเทศไทย จากเมืองเจดดาห์ กับเที่ยวบินของสายการบิน Emirates ในวันศุกร์ที่ 24 ก.ค. 2563

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ในการเดินทางกลับประเทศไทย จากเมืองเจดดาห์ กับเที่ยวบินของสายการบิน Emirates ในวันศุกร์ที่ 24 ก.ค. 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ก.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 980 view

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ได้รับสิทธิจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ในการเดินทางกลับประเทศไทย จากเมืองเจดดาห์ กับเที่ยวบินของสายการบิน Emirates ในวันศุกร์ที่ 24 ก.ค. 2563 ที่พำนักอยู่ในกรุงริยาด เมืองกอซีม และมณฑลตะวันออก โปรดดำเนินการตามที่สถานกงสุลใหญ่ฯ ประกาศ และเพิ่มเติม ดังต่อไปนี้

โปรดทราบด้วยว่าการเดินทางกลับประเทศไทยในครั้งนี้ จะต้องใช้เวลารอเปลี่ยนเครื่องบินที่เมืองเจดดาห์และที่เมืองดูไบค่อนข้างนาน โดยกำหนดการในชั้นนี้ คือ

เที่ยวบินที่ 1 ไปถึงเมืองเจดดาห์ ภายในเวลา 06.30 น. ของวันที่ 24 ก.ค. 2563 (สามารถเลือกเที่ยวบินและซื้อเองได้)
ในกรณีที่เดินทางจากกรุงริยาด อาจเป็นเที่ยวบินที่ออกจากกรุงริยาดในช่วงเย็นของวันที่ 23 ก.ค. 2563 (พักค้างคืนที่เมืองเจดดาห์โดยรับผิดชอบค่าที่พักเอง) หรือเที่ยวสุดท้าย คือวันที่ 24 ก.ค. 2563 (คืนวันที่ 23 ก.ค. 2563) เที่ยวบิน SV 1057 ออกจากกรุงริยาด เวลา 02.00 น. ถึงเมืองเจดดาห์ เวลา 03.40 น. (รอที่สนามบิน)

เที่ยวบินที่ 2 (ต่อเนื่องกับเที่ยวบินที่ 3)
วันที่ 24 ก.ค. 2563 เที่ยวบิน EK 9713 ออกจากเมืองเจดดาห์ เวลา 10.30 น. ถึงเมืองดูไบ เวลา 14.30 น.

เที่ยวบินที่ 3
วันที่ 24 ก.ค. 2563 เที่ยวบิน EK 384 ออกจากเมืองดูไบ เวลา 22.45 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 08.20 น. ของวันที่ 25 กค. 2563

1. ผู้ที่พำนักอยู่ที่เมืองกอซีม และเมืองต่างๆ ในมณฑลตะวันออก

- ขอให้จัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินของสายการบิน Emirates จากเมืองเจดดาห์ ไปกรุงเทพฯ ด้วยตนเอง เมื่อได้รับการติดต่อจากสายการบิน Emirates และส่ง e-ticket พร้อมหน้าหนังสือเดินทาง ไปที่ [email protected] และ [email protected] ในโอกาสแรก

- ขอให้นำสัมภาระและเอกสารเดินทางต่างๆ เดินทางไปที่โรงแรม Myan ถนน Al Urubah กรุงริยาด ในวันพุธที่ 22 ก.ค. 2563 ภายในเวลา 10.00 น. ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตฯ จะนำไปตรวจไวรัสที่โรงพยาบาล Dr. Suleiman Al Habib ในกรุงริยาด จัดหาที่พักที่กรุงริยาดที่โรงแรมดังกล่าว และตรวจร่างกายเพื่อออกใบรับรองแพทย์ Fit-to-Fly โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะออกค่าใช้จ่ายให้ในส่วนของการตรวจไวรัส การตรวจร่างกาย และค่าที่พักที่กรุงริยาด

2. ผู้ที่พำนักอยู่ในกรุงริยาด

- ขอให้จัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินของสายการบิน Emirates จากเมืองเจดดาห์ ไปกรุงเทพฯ ด้วยตนเอง เมื่อได้รับการติดต่อจากสายการบิน Emirates และส่ง e-ticket พร้อมหน้าหนังสือเดินทาง ไปที่ [email protected] และ [email protected] ในโอกาสแรก
- ขอให้ไปตรวจไวรัสที่โรงพยาบาล Dr. Suleiman Al Habib สาขา Olaya ในวันอังคารที่ 21 ก.ค. 2563 โดยขอรับผลการตรวจในวันพุธที่ 22 ก.ค. 2563
- ในชั้นนี้ ขอให้นำสัมภาระ เอกสารเดินทางต่างๆ พร้อมใบเสร็จรับเงินและผลการตรวจไวรัส ไปสถานเอกอัครราชทูตฯ ในวันพฤหัสบดีที่ 23 ก.ค. 2563 เวลา 10.00 น. และตรวจร่างกายเพื่อออกใบรับรองแพทย์ Fit-to-Fly

สำหรับนักศึกษาในกรุงริยาดที่หากไปตรวจไวรัส แล้วจะไม่สามารถกลับเข้าหอพักของมหาวิทยาลัยได้อีกนั้น ขอให้แจ้งยืนยันกับสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยเมื่อจัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินแล้ว ขอให้นำสัมภาระและเอกสารเดินทางต่างๆ เดินทางไปพบเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อตรวจไวรัสที่โรงพยาบาล Dr. Suleiman Al Habib สาขา Olaya ในวันพุธที่ 22 ก.ค. 2563 เวลา 09.30 น. หลังจากนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ จะจัดหาที่พักที่กรุงริยาด และตรวจร่างกายเพื่อออกใบรับรองแพทย์ Fit-to-Fly

สถานเอกอัครราชทูตฯ จะออกค่าใช้จ่ายให้ในส่วนของการตรวจไวรัส และการตรวจร่างกาย

ในกรณีที่ไม่สามารถจัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินกลับประเทศไทยด้วยตนเองที่ซาอุดีฯ ได้ ขอให้ติดต่อญาติในประเทศไทยจัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินทางระบบออนไลน์ให้แทน และในกรณีที่ญาติในประเทศไทยก็ไม่อยู่ในฐานะที่จะจัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินให้ได้ ก็ขอให้ติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ [email protected] เพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดทำหนังสือสัญญายินยอมชดใช้หนี้สำหรับการจัดซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินต่อไป

สำหรับเที่ยวบินจากกรุงริยาดหรือเมืองอื่นๆ ไปเมืองเจดดาห์เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยนั้น ผู้โดยสารสามารถจัดซื้อบัตรโดยสารได้ด้วยตนเอง โดยเลือกเที่ยวบินไปเมืองเจดดาห์หลังจากได้ดำเนินการเรื่องการตรวจเชื้อ COVID-19 และการตรวจร่างกายเพื่อออกใบรับรองแพทย์แล้ว ในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินการเองได้ ก็ขอให้แจ้งยืนยันกับสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ [email protected] ต่อไป

ก่อนการเดินทาง ควรกักตัวเองในที่พักอาศัย และในกรณีที่เดินทางเป็นครอบครัว ขอให้แยกสัมภาระและของใช้ส่วนตัวของแต่ละบุคคลตั้งแต่ต้นทาง เพื่อลดการติดต่อระหว่างห้องพักขณะกักกันตัวเพื่อเฝ้าระวังโรค COVID-19 ในประเทศไทย

แจ้งข้อมูลและติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางโทรศัพท์ได้ที่หมายเลข 055 462 2005 หรือ 055 798 2002

https://www.facebook.com/677181202365123/posts/3104190326330853/