ทีมประเทศไทยในซาอุดีอาระเบียพยายามช่วยเหลือคนไทยในซาอุดีอาระเบียและเลบานอนอย่างดีที่สุด เท่าที่ทำได้ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ ในปัจจุบัน

ขณะนี้ รัฐบาลไทยยังระงับการบินเข้าประเทศไทยของเที่ยวบินจากทุกประเทศ จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2563 เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของ COVID-19 โดยมีข้อยกเว้นสำหรับเที่ยวบินอพยพและเที่ยวบินขนส่งสินค้า ซึ่งคนไทยที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาเกือบทั้งหมด คือผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักในต่างประเทศ ได้แก่ คนที่ไปตกค้างอยู่ในต่างประเทศในฐานะนักท่องเที่ยว ผู้ที่ตกค้างในสนามบินระหว่างทาง (transit) ผู้แสวงบุญ ผู้เดินทางไปชั่วคราว ซึ่งไม่มีปัจจัยยังชีพ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย กลุ่มนักเรียนที่เป็นผู้เยาว์ ผู้ป่วย (ที่ไม่ใช่ผู้ติดเชื้อ COVID-19) สตรีมีครรภ์ ผู้ที่บิดามารดาหรือญาติผู้ใหญ่กำลังป่วยหนักในประเทศไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ก็ยังมีกลุ่มคนที่ถูกผลักดันจากประเทศเจ้าบ้านให้ออกจากประเทศ เนื่องจากสถานะการพำนักอยู่ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือตกงานแล้วไม่มีรายได้และไม่มีที่พัก

และในทางปฏิบัติ คนไทยในต่างประเทศที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศได้นั้น มีโควตารวมจากทุกประเทศจำนวนไม่เกินวันละ 200 คน

ปัจจุบัน การจัดหาเครื่องบินนำคนไทยจากต่างประเทศกลับประเทศไทยนั้น มีช่องทางที่บางแห่งพอจะดำเนินการได้ คือ [1] เป็นเครื่องบินเปล่าที่บินเข้าประเทศไทยเพื่อเข้าไปรับคนของชาตินั้นๆ ในประเทศไทยกลับบ้าน [2] เป็นเที่ยวบินขนส่งสินค้าที่บินในเส้นทางนั้นๆ ตามปกติอยู่แล้ว และได้รับอนุญาตให้นำผู้โดยสารขึ้นเครื่องได้จำนวนหนึ่งเป็นกรณีพิเศษ [3] เป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำของสายการบินที่ทำการบินหรือได้รับอนุญาตให้ทำการบินในเส้นทางนั้นๆ อยู่ก่อนแล้ว ทั้งนี้ ยังอาจมีเงื่อนไขต่างๆ ที่หน่วยงานประเทศต้นทางกำหนดตามสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป

อนึ่ง ประเทศต้นทาง (รวมถึงระหว่างทาง) จะต้องไม่มีข้อห้ามเรื่องการบินของเที่ยวบินระหว่างประเทศด้วย (ซาอุดีฯ และเลบานอนยังปิดสนามบิน โดยให้ทำการบินได้เฉพาะที่ได้รับอนุญาตเป็นพิเศษเท่านั้น)

ทุกกรณี ผู้โดยสารต้องชำระค่าโดยสารเอง โดยค่าโดยสารมีราคาแพงกว่าเที่ยวบินปกติ และเป็นเที่ยวบินขาเดียว คือกลับประเทศไทยเท่านั้น

ผู้โดยสารคนไทยที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศไทยทุกคน ต้องมีใบรับรองแพทย์ (Fit-to-Fly) ที่มีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง และหนังสือรับรองการเดินทางจากสถานทูต/สถานกงสุล โดยต้องลงทะเบียนในระบบของกระทรวงการต่างประเทศล่วงหน้าเมื่อมีเที่ยวบินแล้ว และเมื่อถึงประเทศไทย ผู้โดยสารทุกคนจะต้องเข้ารับการกักตัวในสถานที่ที่รัฐบาลกำหนดเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน และในบางกรณีก็อาจจำเป็นต้องพักในห้องพักคู่ หรือมากกว่า 2 คนในห้องเดียวกันด้วย

คนไทยในซาอุดีฯ ส่วนใหญ่พำนักอยู่ในมณฑลมาดีนะห์และมณฑลมักกะห์ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ โดยมีคนไทยจำนวนหนึ่งที่แจ้งกับสถานกงสุลใหญ่ฯ ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนต้องเดินทางกลับประเทศไทย สถานกงสุลใหญ่ฯ จึงกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการขออนุญาตเช่าเหมาลำเครื่องบินในการนำคนไทยที่มีความจำเป็นเร่งด่วน จากเมืองเจดดาห์ ไปกรุงเทพฯ ในช่วงปลายเดือน พ.ค. 2563

ระหว่างที่คนไทยในซาอุดีฯ และเลบานอน ยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้นั้น สถานเอกอัครราชทูตที่ริยาด และสถานกงสุลใหญ่ที่เมืองเจดดาห์ จะพยายามดูแลช่วยเหลืออย่างดีที่สุด ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลใหญ่ได้ตลอดเวลาครับ

ในขณะเดียวกัน ในเดือน พ.ค. 2563 ทางการซาอุดีฯ เลบานอน รวมถึงทางการไทย อาจมีมาตรการที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเดินทางกลับประเทศไทยของคนไทยในซาอุดีฯ และเลบานอน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งข้อมูลให้ทราบเพิ่มเติมเป็นระยะครับ