การประชุมสภาอุลามะอ์อาวุโสซาอุดีฯ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 มีมติให้ระงับการละหมาดวันศุกร์ และการละหมาด 5 เวลาที่มัสยิดในซาอุดีฯ ทุกแห่ง โดยยกเว้นมัสยิดฮารอมทั้ง 2 แห่ง ที่เมืองมักกะห์ และเมืองมะดีนะห์

การประชุมสภาอุลามะอ์อาวุโสซาอุดีฯ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 มีมติให้ระงับการละหมาดวันศุกร์ และการละหมาด 5 เวลาที่มัสยิดในซาอุดีฯ ทุกแห่ง โดยยกเว้นมัสยิดฮารอมทั้ง 2 แห่ง ที่เมืองมักกะห์ และเมืองมะดีนะห์

วันที่นำเข้าข้อมูล 23 มี.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 659 view

การประชุมสภาอุลามะอ์อาวุโสซาอุดีฯ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 มีมติให้ระงับการละหมาดวันศุกร์ และการละหมาด 5 เวลาที่มัสยิดในซาอุดีฯ ทุกแห่ง โดยยกเว้นมัสยิดฮารอมทั้ง 2 แห่ง ที่เมืองมักกะห์ และเมืองมะดีนะห์

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลซาอุดีฯ ได้มีมาตรการเพิ่มเติม รวมถึงได้สั่งการให้บริษัทภาคเอกชนระงับพนักงานของตนในการเดินทางไปทำงานที่สำนักงานใหญ่เป็นเวลา 15 วัน และลดจำนวนคนทำงานในสำนักงานสาขาให้เหลือเฉพาะที่จำเป็น

ทั้งนี้ ทางการซาอุดีฯ ประกาศว่าตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในซาอุดีฯ เพิ่มอีก 38 ราย รวมทั้งสิ้น 171 ราย เป็นคนซาอุดีฯ 104 ราย คนอียิปต์ 51 ราย คนฟิลิปปินส์ 3 ราย คนบาห์เรน 2 ราย คนสหรัฐฯ 2 ราย คนจอร์แดน 2 ราย คนบังกลาเทศ 1 ราย คนฝรั่งเศส 1 ราย คนเลบานอน 1 ราย คนอินโดนีเซีย 1 ราย คนสเปน 1 ราย คนอัฟกานิสถาน 1 ราย และคนตุรกี 1 ราย (อาจต้องรอการยืนยันเรื่องสัญชาติของผู้ป่วย เพราะรายงานข่าวของสื่อมวลชนซาอุดีฯ ค่อนข้างสับสน)

ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เดินทางกลับมาจากอิหร่านหรืออิรัก หรือติดเชื้อจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากอิหร่าน และเป็นคนอียิปต์ที่เดินทางมาจากอียิปต์ แต่พบผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากประเทศอื่นๆ ด้วย เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร อิตาลี ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ สเปน โมร็อกโก จอร์แดน อัฟกานิสถาน ตุรกี จอร์แดน โอมาน อินเดีย ออสเตรีย

ผู้ป่วยดังกล่าวกำลังได้รับการรักษาพยาบาลอยู่ในมณฑลตะวันออก (Eastern Region) เช่นเมือง Al-Qatif และในเมืองมักกะห์ กรุงริยาด เมืองเจดดาห์

มีผู้หายป่วยแล้ว 6 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต